VALORANT Replay System กำลังมา ผู้เล่นดีใจ แต่ก็มีข้อเสีย

หลังจากรอคอยกันมาอย่างนาน เกือบๆ 5 ปี ในที่สุด Riot Games ก็เตรียมปล่อยระบบ Replay System ให้กับเกม VALORANT ในแพตช์ 11.06 ซึ่งชุมชนผู้เล่นก็ออกมาแสดงความเห็นกันอย่างเนืองแน่น แต่ความเห็นพวกนั้นไม่ใช่แง่ดีอย่างเดียว มีแง่ลบด้วย (ซึ่งเราเคยนำเสนอเรื่องนี้ ตั้งแต่ มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา) มันทำให้เรานึกถึงเกมกีฬาอื่นๆ ที่สามารถเอา คลิป Replay มาย้อนดูได้ แล้วมาปรับแผนกันใหม่

Valorant Replay System มาแล้ว หลายคนดีใจ เพราะรอมานาน แต่…

ที่ในที่สุด VALORANT ก็จะมี Replay System สักที หลายคนบอกว่าอยากเห็นการเล่นของตัวเองในมุมมองแบบ review ทั้ง Freecam, POV ศัตรู หรือย้อนดูจังหวะทีมไฟต์เพื่อปรับปรุงสกิลตัวเอง ซึ่งจริงๆแล้ว เป็นเรื่องที่ดีมากๆ เพราะใช้ในการฝึกเล่น ฝึกแผน และสามารถดูได้ด้วยว่า ใครในทีม นอกคอก ไม่ยอมทำตามแผน ซึ่งสามารถมาปรับปรุงกันได้ แต่อย่างไรก็ดี มันมีข้อจำกัด

ข้อจำกัดใน Replay

ไม่ใช่จะอยู่ถาวร เพราะ รีเพลย์หมดอายุทุกครั้งที่เปลี่ยนแพตช์ (~ทุก 2 สัปดาห์) ทำให้ดูย้อนหลังนาน ๆ ไม่ได้ และ แชร์ไฟล์ให้คนอื่นดูไม่ได้ หรือดูแมตช์โปร (VCT) ผ่านระบบรีเพลย์ตรง ๆ ไม่ได้ รวมถึงยังไม่รองรับ Custom Games ซึ่งเป็นโหมดที่ทีมแข่งใช้กัน

โหมดที่ใช้ได้คือ Competitive, Unrated, Swiftplay, และ Premier

ซึ่งหากจะเอาไปเปรียบเทียบกับ CS:GO ที่ระบบ Replay เก็บไฟล์ได้ตลอดแม้จะผ่านหลายปี สามารถดาวน์โหลดได้ เพราะตัวเกมอนุญาตให้รันเวอร์ชันเก่าได้ ต่างกับ VALORANT ที่แพตช์ใหม่จะทำให้รีเพลย์เก่าใช้ไม่ได้ (อ้างอิง apexminecrafthosting.com)

ทำไม Riot ไม่ให้เก็บไฟล์เป็น คลิปวีดีโอ ดาวน์โหลดได้ไปเลย?

มีคนสงสัยว่าทำไม Riot ไม่ทำเป็นไฟล์วิดีโอเลย คำตอบคือเพราะ ไฟล์วิดีโอใหญ่เกินไป และ ล็อกมุมมอง หากจะดูทุก POV ของผู้เล่นทั้ง 10 คนต้องมีไฟล์ 10 วิดีโอ แต่การเก็บเป็น ข้อมูลในเกม จะทำให้เราหมุนกล้อง เปลี่ยนมุม และใช้ Freecam ได้เต็มที่ แถมไฟล์ยังเล็กกว่ามาก และนั่นคือข้อจำกัดสำคัญมากๆ

จะมาเมื่อไหร่?

Valorant Replay System จะมาพร้อม Patch 11.06 ในวันที่ 16 กันยายน 2568 บน PC และ บน Console ในเดือนพฤศจิกายน 2568 นี้

ระบบ Replay ของ VALORANT ที่จะเปิดตัวไม่นานนี้ถือเป็นข่าวดีสำหรับผู้เล่นที่รอมานาน เพราะช่วยให้สามารถย้อนดูการเล่นตัวเองและพัฒนาทักษะได้จริง แต่ข้อจำกัดอย่างการหมดอายุเร็ว สิ่งหนึ่งที่เห็นชัดคือ ก็น่าจะดีใจ ที่ Riot เดินมาถึงจุดนี้แล้ว และถึงแม้จะมีเสียงบ่น แต่ทุกคนก็อยากเห็นระบบนี้เติบโตต่อไป เพราะมันอาจเป็นเครื่องมือสำคัญทั้งสำหรับผู้เล่นทั่วไปและระดับโปร