วิเคราะห์ข้อมูลเกม ฟีฟาย ประวัติการเล่น สถิติดาวน์โหลดที่น่าสนใจ หลายคนยังไม่รู้
รู้หรือไม่ว่าเกมฟีฟายเป็นเกมที่มีอิทธิพลกับตลาดเกมเป็นอย่างมากตั้งแต่เปิดตัวเมื่อหลายปีก่อน ซึ่งในข่าวนี้ เป็นข่าวที่เกี่ยวกับสถิติการดาวน์โหลด รายได้ของเกม และปฏิสัมพันธ์กับผู้เล่น รวมถึงเปรียบเทียบกับเกมอื่นๆในตลาดเดียวกัน ซึ่งเป็นข้อมูลที่น่าสนใจ ที่หลายๆคนอาจไม่เคยพบเห็นมาก่อน
ประวัติการดาวน์โหลด เกมฟีฟาย
เพราะเกมนี้ถูกเปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2017 ในเดือนธันวาคมและนับตั้งแต่นั้นมา อ้างอิง Forbes.com เกม Free Fire เป็นเกมที่มีอิทธิพลสูง และมีข้อมูลของผู้เล่นมากที่สุด และเกมนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงมาตั้งแต่ต้นเลยทีเดียว โดยเฉพาะในประเทศบราซิล และ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยใช้เวลาเพียงแค่ 2 ปีเท่านั้น ซึ่งเป็นเกมที่ได้รับการดาวน์โหลดสูที่สุดทั่วโลก
อ้างอิงข้อมูลจาก Newsreports.com นี่คือสถิติที่โตขึ้นอย่างรวดเร็วของจำนวนผู้เล่นที่มีการดาวน์โหลดเกม
ปีที่มีการดาวน์โหลด | จำนวนครั้งในการดาวน์โหลด |
---|---|
2020 | 450 ล้านครั้ง |
2021 | 241.4 ล้านครั้ง |
2022 | 262.3 ล้านครั้ง |
ซึ่งจะเห็นได้ว่า มีการดาวน์โหลดมากที่สุดในปี 2020 ซึ่งก็มีควมเป็นไปได้ว่าเกิดขึ้นจากการที่ถูก Lockdown ในช่วงโควิดที่ผ่านมา โดยในข่าวระบุว่า เพียงเดือนตุลาคม 2021 เดือนเดียว มีการดาวน์โหลดมากถึง 34 ล้านครั้งเลยทีเดียว
ฟีฟายมีรายได้จากประเทศไหนมากที่สุด?
ปี ค.ศ. | รายได้ |
---|---|
2018 | 0.02 พันล้านดอลล่าร์ |
2019 | 1 พันล้านดอลล่าร์ |
2020 | 2.1 พันล้านดอลล่าร์ |
2021 | 1.2 พันล้านดอลล่าร์ |
2022 | 0.5 พันล้านดอลล่าร์ |
สำหรับการดูรายได้ จะเป็นจากภาพรวมตั้งแต่ปี 2018 เป็นต้นมา โดยมีรายได้สูงที่สุด ณ ปี 2020 มากถึง 2.1 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐ หรือราวๆ 69,000 ล้านบาทไทย ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับจำนวนดาวน์โหลดที่สูงที่สุดในปีนั้น และสำหรับ รายได้ ที่ทางฟีฟายได้รับนั้น ประเทศไทยติดอันดับ 2 ของโลกอีกด้วย
- บราซิล - เกมฟีฟายได้รายได้จากบราซิลคิดเป็นสัดส่วนที่ 31% ของรายได้ทั้งหมด
- ประเทศไทย - มาเป็นอันดับสอง ด้วยสัดส่วนรายได้ที่ 11%
- และสหรัฐอเมริกา - คิดเป็น 9.4% ของรายได้ทั้งหมด
เกมอะไรเป็นเกมคู่แข่งที่ใกล้เคียงกันกับ Free Fire?
ชื่อเกม | ส่วนแบ่งการตลาด (%) |
---|---|
Free Fire | 30% |
PUBG Mobile | 25% |
Call of Duty Mobile | 20% |
Others | 25% |
สำหรับเกมอื่นๆนั้น จะมีส่วนแบ่งการตลาดใกล้เคียงกันกับฟีฟาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง PUBG, COD (Call of duty mobile) และ เกมอื่นๆ ซึ่งจะเห็นได้ว่า เกม Free Fire มีส่วนแบ่งการตลาดมากที่สุดที่ 30% มากกว่า PUBG อยู่ถึง 5% และที่ตามมาคือ COD แต่ในเรื่องนี้มีปัจจัยทางการตลาดอื่นๆที่เกี่ยวข้องด้วย เช่น การถูกแบนไม่ให้ดาวน์โหลดในประเทศนั้นๆ รวมถึงข้อกฎหมายต่างๆ
การคาดการณ์สิ่งที่จะเกิดขึ้นกับเกมนี้ในอนาคต
แม้ว่าจะผ่านมาหลายปี จำนวนการดาวน์โหลดเกมนี้ยังเป็นจำนวนที่สูงที่สุดในปี 2023 ที่ผ่านมา ซึ่งมีการคาดการณ์กันไว้ว่า อาจมีโหมดในการเล่นเกมแบบใหม่ๆ รวมถึงการปรับปรุงกราฟฟิก เพื่อดึงดูดผู้เล่นเก่าให้กลับมา รวมถึงผู้เล่นหน้าใหม่ด้วย นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มโซเชียลของฟีฟายที่ออกมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เป็นสังคมเกมออนไลน์ที่เข้มแข็ง และคาดว่าเกมนี้คงจะไม่หนีไปจากเรา และจะอยู่กันไปอีกนาน