วิเคราะห์ GTA 5 VS Garena Free City แตกต่างกันยังไง?

ถ้าชอบเกมแนว Open World ที่จะขับรถ ไล่ล่าผู้ร้าย ปล้นธนาคาร หรือแค่ขับรถเล่นในเมืองอย่างอิสระ หลายคนน่าจะคุ้นกับ GTA 5 กันอยู่แล้ว แต่ตอนนี้ Garena Free City กำลังมาแรงในฐานะตัวแทนเกมแนวเดียวกันที่เล่นได้บนมือถือ!

Garena Free City คือเกมอะไร?

นี่คือเกมใหม่จาก Garena ที่เตรียมเปิดให้เล่นทั่วโลกในปี 2568 (คาดว่าภายในเดือน มิถุนายน 2568 นี้) โดยใช้แนวทางเกม Open World แบบเดียวกับ GTA ผสม PvP / PvE / ภารกิจลับ / การแต่งรถสุดละเอียด และระบบสร้างแก๊งยึดครองเมือง จุดเด่นคือเล่นได้ทุกที่บนมือถือแบบฟรี!

มองเผินๆ เหมือนกัน แต่ GTA 5 กับ Garena Free City ต่างกันตรงไหน?

แม้จะเป็นแนวเดียวกัน แต่สองเกมนี้มีจุดแตกต่างชัดเจนในหลายมุม มาดูตารางเปรียบเทียบง่ายๆ ด้านล่างนี้:

คนที่เล่น GTA 5 น่าจะสนใจ Garena Free City ไหม?

ถ้ารู้สึกว่าอยากเล่นอะไรแนว GTA บนมือถือแบบไม่ต้องใช้คอมแรงๆ Garena Free City คืออีกทางเลือกที่น่าสนใจมาก โดยเฉพาะคนที่ชอบแต่งตัว แต่งรถ หรือชอบเกมที่อิสระในการเดินเล่น ทำภารกิจ และซัดกันกลางเมืองแบบโกลาหล

Free City เป็น Free-to-Play มีการเติมเงินเกม แต่ GTA V ไม่ต้อง

แม้ตอนนี้จะยังไม่เปิดเต็มรูปแบบ แต่ระบบในเกมบ่งชี้ว่า สามารถเติมเกมได้แน่นอน โดยจะใช้หน่วยเงินที่เรียกว่า “เงินสด” เพื่อซื้อไอเทม, สกิน, รถ, และของตกแต่งต่างๆ ซึ่งคล้ายกับระบบของเกมแนว Battle Royale อื่นๆ แต่มีรายละเอียดการแต่งรถและภารกิจที่ลึกกว่า

ดูตัวอย่างได้จากบทความนี้: ตัวอย่างระบบเติมเกม Free City บน Rechargeland

แต่สำหรับ GTA 5 และแม้แต่ GTA 6 นั้น เป็นเกมที่ไม่ต้องเติมเกม เนื่องจากเป็นการซื้อเกมมาเล่น ซึ่งของในเกมก็อาจจะขึ้นอยู่กับการปลดล๊อคภารกิจต่างๆ แต่อาจมี Mod เสริมหรือ DLC ที่ต้องจ่ายเงินเพิ่ม โดยมีการประเมินราคาว่า GTA 6 ราคาน่าจะอยู่ราวๆ 2,000+ บาทไทย 

สรุป

GTA 5 ยังคงเป็นเกมที่ครองใจใครหลายคน แต่สำหรับใครที่อยากได้อะไรใหม่ๆ บนมือถือแบบคล้ายกัน Garena Free City อาจกลายเป็นตัวเลือกที่ “แทนกันได้ในระดับหนึ่ง” โดยเฉพาะช่วงรอ GTA 6 ที่จะเปิดตัวปี 2026 ใครไม่อยากรอ ก็ไปลงทะเบียนรอเล่นไว้ก่อนได้เลย แต่ถ้ารอไม่ได้ ทั้งสองเกมก็ยังไม่ได้เปิดตัว ลองไปเล่นเกม The Precinct ที่คนนิยมเล่นเช่นกันใน Steam