ระบบแรงก์ใน VALORANT คืออะไร? พร้อมคู่มือการไต่อันดับในปี 2025
VALORANT คือเกมแนว Tactical Shooter แบบ 5v5 ที่พัฒนาโดย Riot Games และมีระบบแรงก์ (Ranked System) เพื่อจัดอันดับฝีมือของผู้เล่นทั่วโลก บทความนี้จะอธิบายระบบแรงก์ให้เข้าใจง่าย พร้อมภาพประกอบแบบละเอียด และแนวทางการบูสต์แรงก์อย่างปลอดภัย
แรงก์ทั้งหมดใน VALORANT

ระบบ Ranking System ของ Valorant เป็นหนึ่งใน ส่วนของเกม อย่างที่ทุกคนรู้กันดี ซึ่งถ้าใครอยากจะทดสอบฝีมือ และต้องการไต่แรงก์ ก็ต้องไปลองแข่ง แต่คำถามคือ คนที่พึ่งเคยได้เล่นอาจจะยังไม่เข้าใจเกี่ยวกับ ระบบ Ranking วันนี้ จะมาอธิบายให้หมด เกี่ยวกับเรื่องนี้
ระแบบ Rank คืออะไร?
มันก็เหมือนกันกับเกมอื่นๆ ยกตัวอย่างใกล้ๆเลย ก็ Overwatch 2 หรือ จะเป็นเกมแนว Battle Royale อื่นๆ รวมถึง MMOPG ด้วยเช่น RoV, Pubg mobile, ฯลฯ ที่คนไทยเล่นกันเป็นประจำ โดยที่ทาง Valorant ก็จะมีระบบของตัวเองที่จัดอันดับผู้เล่นที่เก่ง ซึ่งจะได้รู้ว่าใครอยู่อันดับที่เท่าไหร่แล้ว และแต่ละ แรงก์ ถามว่ามีประโยชน์อะไร? มันทำให้เข้าใจว่าใครมีฝีมืออยู่อันดับที่เท่าไหร่ นั่นเอง
อ่านต่อ 8 แรงก์ใน PUBG Mobile เทคนิคในการไต่ให้เร็วที่สุด
9 แรงก์ ทั้งหมด ใน Valorant ที่ควรรู้

VALORANT มีทั้งหมด 9 แรงก์ โดย 8 แรงก์แรกมีแรงก์ย่อย (ยกเว้น Radiant):
แรงก์ | แรงก์ย่อย |
---|---|
Iron | Iron 1, 2, 3 |
Bronze | Bronze 1, 2, 3 |
Silver | Silver 1, 2, 3 |
Gold | Gold 1, 2, 3 |
Platinum | Platinum 1, 2, 3 |
Diamond | Diamond 1, 2, 3 |
Ascendant | Ascendant 1, 2, 3 |
Immortal | Immortal 1, 2, 3 |
Radiant | ไม่มีแรงก์ย่อย |
การคำนวณแรงก์: MMR และ RR
คำถามคือ แล้วการคำนวณแรงก์ เค้าทำกันยังไง? เราต้องทำความเข้าาใจ ระบบแรงก์ของ VALORANT ซะก่อน ซึ่งระบบนี้ใช้ค่าซ่อนที่เรียกว่า MMR (Matchmaking Rating) และคะแนนที่มองเห็นได้คือ RR (Rank Rating)
- ชนะ: ได้ RR ประมาณ +10 ถึง +50
- แพ้: เสีย RR ประมาณ -10 ถึง -30
- หาก MMR สูงกว่าแรงก์ = ได้ RR เยอะ
- หากแรงก์สูงกว่า MMR = เสีย RR เยอะ
พูดง่ายๆ หากชนะจะได้ RR เพิ่ม และ หากเป็น Matchmaking Rating สูงกว่า แรงก์ของตัวเอง ก็จะเสีย RR เยอะไปตาม ทำให้อาจถึงขั้นเสีงแรงก์เลย และในทางกลับกันหากชนะ ก็จะบูสต์แรงก์ได้ค่อนข้างเยอะ
อย่างไรก็ดี เมื่อเริ่ม Act หรือ Episode ใหม่ แรงก์จะถูกรีเซ็ต เพื่อความยุติธรรมในการจัดอันดับ โดยเฉพาะช่วง Episode ใหม่ที่ต้องเล่น Placement 5 แมตช์ ซึ่งอาจทำให้ได้แรงก์ต่ำกว่าที่เคยอยู่ หากผลงานไม่ดี และทาง Valorant จะมีการบอกว่าจะมีการ reset หรือไม่ผ่าน Patch Notes เวอร์ชั่นต่างๆ อย่างไรก็ดี ไม่ใช่ทุก Patch จะมีการ Reset
ในบาง Patch Notes จะมีการ Reset Ranking ซึ่งเห็นได้ค่อนข้างบ่อย มันเป็นเหตุผลที่ทำให้ผู้เล่นต้องกลับมาเล่นอีกเพื่อไต่แรงก์ของตัวเองให้สูงขึ้น แต่ยกตัวอย่างเช่น Patch 10.08 ที่ผ่านมา ไม่ได้มีการ Reset แต่อย่างใด แต่มีการปรับบาลานซ์ของเอเจนต์หลายตัว
ซึ่งการ reset ranking ก็ไม่ต้องกังวล สำหรับคนแรงก์สูงๆ เมื่อมีการ Reset แล้ว การกลับมาเล่นแค่ครั้งเดียวก็จะทำให้แรงก์ กลับมาปกติ ได้ แต่ถ้าพูดถึงปัจจุบัน ในเรื่องของการเริ่ม Episode ใหม่ ผู้เล่นจะต้องเล่น 5 แมทช์ เพื่อให้แรงก์กลับมาเหมือนเดิม แต่ถ้า เล่นได้ไม่ดี แรงก์ตกแน่นอน ซึ่งจุดนี้ก็เป็นที่ถกเถียงกันมาจนถึงปัจจุบัน
สถิติการกระจายแรงก์ผู้เล่น VALORANT ประจำเดือนพฤษภาคม 2025
จากข้อมูลล่าสุดของเว็บไซต์ vstats.gg ที่เก็บสถิติจากผู้เล่นจำนวนมาก พบว่าผู้เล่นส่วนใหญ่ของเกม VALORANT ในเดือนพฤษภาคม 2025 ยังคงกระจุกตัวอยู่ในแรงก์ระดับกลางอย่าง Bronze ถึง Platinum โดยมีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่สามารถไปถึงแรงก์สูงสุดอย่าง Immortal หรือ Radiant

แรงก์ | เปอร์เซ็นต์ผู้เล่น |
---|---|
Iron | 5.73% |
Bronze | 16.99% |
Silver | 22.97% |
Gold | 21.36% |
Platinum | 15.72% |
Diamond | 10.15% |
Ascendant | 6.25% |
Immortal | 1.87% |
Radiant | 0.00% |
จะเห็นได้ว่าแรงก์ยอดนิยมของผู้เล่น VALORANT อยู่ระหว่าง Bronze ถึง Platinum โดยเฉพาะ Silver และ Gold ซึ่งมีสัดส่วนผู้เล่นรวมกันเกือบครึ่งหนึ่งของทั้งหมด นั่นแสดงถึงระดับความท้าทายที่เพิ่มขึ้นจาก Platinum ขึ้นไป ซึ่งจำนวนผู้เล่นจะลดลงอย่างชัดเจน อย่าง Radiant นี่ไม่มีเลย เป็น 0%
หมายเหตุ: ข้อมูลนี้มาจากเว็บไซต์ Vstats.gg ไม่ใช่สถิติแบบ official จากทาง Riot Games ซึ่งข้อมูลทางการล่าสุดนั้นเผยแพร่ครั้งสุดท้ายเมื่อประมาณ 3 ปีก่อน แต่ก็ไม่รู้ทำไมถึงไม่มีข้อมูลนี้ต่ออีกครั้งนึง
การจับคู่เล่น Ranked แบบทีมใน VALORANT

VALORANT อนุญาตให้ผู้เล่นเข้าเล่นโหมดจัดอันดับแบบเป็นกลุ่มได้ โดยมีเงื่อนไขเฉพาะเพื่อความยุติธรรมในระบบจับคู่ สำหรับป้องกันการบูสต์แรงก์แบบโกง
เล่นแบบกลุ่ม 5 คน
- ไม่มีข้อจำกัดเรื่องแรงก์ ทุกคนสามารถจับปาร์ตี้ได้
- แต่ถ้าแรงก์ห่างกันมาก จะมีการลดคะแนนที่ได้จากการแข่งขัน
- ถ้ามีผู้เล่นแรงก์ Diamond หรือต่ำกว่า ระบบจะปรับคะแนนตามช่วงแรงก์ในทีม
- ถ้าทีมมีผู้เล่น Diamond 2 หรือสูงกว่า จะโดนลดคะแนนที่ได้รับลง 50%
- ถ้ามีผู้เล่น Immortal อยู่ในทีม จะโดนหักคะแนนสูงถึง 75% ถึง 90%
เล่นแบบกลุ่ม 2 หรือ 3 คน
- ผู้เล่นแรงก์ Iron, Bronze และ Silver สามารถเล่นด้วยกันได้
- แรงก์ Gold สามารถเล่นกับ Silver หรือ Platinum เท่านั้น
- หากแรงก์ต่างจากนี้ จะไม่สามารถจับคู่กันได้
- ผู้เล่นระดับ Immortal สามารถเล่นได้แค่เดี่ยว, คู่ หรือกลุ่ม 5 คนเท่านั้น
ระบบนี้ช่วยให้การแข่งขันในแรงก์มีความยุติธรรม และลดโอกาสการดึงแรงก์หรือบูสต์แรงก์โดยไม่เป็นธรรมต่อผู้เล่นอื่น แต่สามารถเล่น Ranked ได้เป็นกลุ่ม 2, 3 หรือ 5 คน เท่านั้น (ห้าม 4 คน) โดยมีกฎควบคุมความห่างของแรงก์ภายในทีม เพื่อป้องกันการบูสต์ที่ไม่แฟร์
วิธีบูสต์แรงก์ VALORANT แบบไม่เสี่ยงแบน

ถ้าคุณไม่มีเวลาไต่แรงก์ด้วยตัวเอง การบูสต์แรงก์แบบถูกต้องและปลอดภัยก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง Rechargeland.com ได้อธิบาย วิธีบูสต์แรงก์ VALORANT ที่ไม่ผิดกฎ อย่างละเอียด เช่น การใช้ระบบ Duo Boost, เลือกผู้เล่นแรงก์สูงมาเล่นช่วยโดยไม่ใช้โปรแกรมโกง เพื่อให้ยังคงอยู่ในเงื่อนไขของ Riot โดยไม่เสี่ยงต่อการโดนแบน
ระบบแรงก์ของ VALORANT ไม่ได้เป็นแค่ตัววัดฝีมือ ความเก่งเท่านั้น แต่พยายามด้นผู้เล่นให้พัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่มือใหม่ไปจนถึงระดับ Radiant ด้วยการเข้าใจระบบ MMR, รู้จักการวางกลยุทธ์, การสื่อสารทีม และรู้ทางเลือกในการบูสต์แรงก์ที่ปลอดภัย ก็สามารถไปถึงแรงก์ได้ (แต่ก็ขึ้นอยู่กับการฝึกซ้อมด้วย)