ทำไม Free Fire ถึงอัพเดทไม่ได้ ปัญหานี้ถามกันมาทุกปี และหลายกำลังพยายามอัปเดตเกม Free Fire โดยเฉพาะตอนที่ทาง ฟีฟายมีแพทช์ใหม่ๆออกมา แต่พบว่าไม่สามารถอัปเดตได้ อาจเกิดจากปัญหาหลายประการ เช่น เน็ตไม่เสถียร พื้นที่เก็บข้อมูลไม่เพียงพอ หรือมีข้อผิดพลาดของระบบ Google Play Store โดยเราจะมาแนะนำวิธีแก้ปัญหาเบื้องต้น

อัพเดทฟีฟายไม่ได้ 7 วิธีแก้ไขปัญหาเบื้องต้นก่อน ไม่ต้องตกใจ
-
เน็ตพอมั้ย? หรือ Wifi ไม่แรง
บางทีปัญหาอาจไม่ได้มีอะไรเลย แค่ไปต่อ Wi-Fi ที่ไม่เสถียรเท่านั้น หากใช้ อินเทอร์เน็ตมือถือ ก็ต้องให้แน่ใจว่ามีสัญญาณแรง และ มีแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตเพียงพอ หรือ ลอง เปิด-ปิดโหมดเครื่องบิน แล้วเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตใหม่อีกที และหากรอบนี้อัพเดทได้ก็ถือว่าผ่าน
-
พื้นที่ในมือถือเต็มหรือยัง?
- ไปที่ การตั้งค่า (Settings) > ที่เก็บข้อมูล (Storage)
- หากพื้นที่เหลือน้อยกว่า 1GB อาจทำให้ update ไม่ได้ ลอง ลบไฟล์ที่ไม่จำเป็น หรือ แอปที่ไม่ได้ใช้ เพื่อเพิ่มพื้นที่ว่าง
-
ล้างแคชและข้อมูลของ Google Play Store
ไปที่ การตั้งค่า (Settings) > แอปพลิเคชัน (Apps) > Google Play Store เลือก Storage แล้วกด Clear Cache และ Clear Data จากนั้นลองเปิด Google Play Store และอัปเดต Free Fire อีกครั้ง ถ้ารอบนี้ได้ แสดงว่าติด Cache เก่า
-
ล้างแคชของ Free Fire
ข้อที่แล้วคือการล้าง Cache ของตัวเครื่องในแอป แต่อันนี้จะเป็นการล้าง Cache ของตัว app เกม ฟีฟายเอง โดยเริ่มต้น ไปที่ การตั้งค่า (Settings) > แอปพลิเคชัน (Apps) > Free Fire เลือก Storage แล้วกด Clear Cache จากนั้นลองเปิดเกมแล้วอัปเดตใหม่
-
ลองรีสตาร์ทเครื่อง
บางครั้งการ Restart เครื่องแค่ครั้งเดียวก็จะช่ยได้ โดย กด ปุ่มปิดเครื่อง ค้างไว้ เลือก Restart หรือ ปิดเครื่องแล้วเปิดใหม่ หาก Restart แล้วได้ ก็คาดว่าน่าจะเกิดจากการที่มือถือไม่ได้มีการรีสตาร์ทมาเป็นระยะเวลานาน ทำให้ด๊องได้
-
อัปเดตเวอร์ชัน Android
Android เวอร์ชั่นควรจะต้องมากกว่า 2.2 ไปที่ การตั้งค่า (Settings) > ระบบ (System) > การอัปเดตซอฟต์แวร์ (Software Update) ตรวจสอบว่ามีอัปเดตใหม่หรือไม่ แล้วติดตั้งให้เรียบร้อย แต่สำหรับมือถือที่เก่าแล้วการอัพเดทอาจทำให้เครื่องช้าลงได้
-
ลบแอป ฟีฟาย และทดลองติดตั้งใหม่
หากลองทุกวิธีแล้วยังอัปเดตไม่ได้ ให้ลบ Free Fire แล้วติดตั้งใหม่ โดยทำตามขั้นตอนนี้
- ไปที่ Google Play Store
- ค้นหา Free Fire แล้วกด ถอนการติดตั้ง (Uninstall)
- จากนั้น ติดตั้งใหม่ (Install) แล้วลองเปิดเกมดู
อ่านต่อ: เช็ค รีฟัน RoV ทำยังไง แล้วจะโดนแบนหรือไม่? พร้อม 6 ขั้นตอนแก้
ปัญหาอื่นๆ ที่อาจเป็นเส้นผมบังภูเขา
- ตั้งค่าวันที่และเวลาให้ถูกต้อง – มือถือของบางคนอาจ ไม่ได้มีการตั้งเวลาแบบอัติโนมัติ เอาไว้ ซึ่งเป็นต้นเหตุ ของเวลาที่ไม่ตรง ทำให้ อัพเดทฟีฟายไม่ได้ สามารถแก้ปัญหาเบื้องต้นได้ตามนี้
- ไปที่ การตั้งค่า (Settings) > ระบบ (System) > วันที่และเวลา (Date & Time)
- เปิด ตั้งค่าอัตโนมัติ (Set time automatically) แล้วลองอัปเดตใหม่
- ปิด Google Play Store แล้วเปิดใหม่
- ปิดแอป Google Play Store จากเมนู Recent Apps
- เปิดใหม่แล้วลองอัปเดต Free Fire อีกที
- ตรวจสอบว่าเซิร์ฟเวอร์ของ Free Fire ล่มหรือเปล่า?
- บางครั้ง Garena อาจปิดเซิร์ฟเวอร์ชั่วคราวเพื่ออัปเดตเกม ให้ลองเข้าไปที่ เพจทางการของ Free Fire หรือ เว็บไซต์ Garena เพื่อตรวจสอบสถานะ หรือเข้าไปที่ https://downdetector.com/status/free-fire/
การแก้ไขปัญหาด้านบนนี้ เฉพาะสำหรับการโหลดแอปจาก Google Play Store เท่านั้น ไม่สามารถใช้ได้กับ Free Fire Advance Server ที่เปิดลงทะเบียนเป็นครั้งคราว อย่างไรก็ดี หากทำทุกอย่างตามด้านบนแล้ว ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ควรติดต่อกับทาง Garena Free Fire เพื่อแจ้งปัญหาโดยตรงที่ https://support.garena.in.th/new/games/report/19/free-fire
วิธีแก้ไข Delta Force Blue Screen of Death (BSOD) – ทำไมถึงเกิดขึ้น