รวม 20 อาวุธเด็ดใน Free Fire ที่หลายคนยังใช้กันอยู่ในปี 2568

0
51

ในโลกของ Garena Free Fire ที่ทุกวินาทีมีค่า และทุกกระสุนนำไปสู่ชัยชนะ อาวุธที่เลือกใช้คือปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้คุณอยู่รอดและคว้า Booyah ได้ง่ายขึ้น วันนี้เราจะพาไปรู้จัก 20 อาวุธเด็ด ที่ต้องมีในมือ พร้อมคำแนะนำว่าใช้อย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุดในแต่ละสถานการณ์

ทำความรู้จักอาวุธปืนใน Free Fire มีทั้งหมด 8 ประเภทด้วยกัน

ในเกม Garena Free Fire อาวุธถูกแบ่งออกเป็นประเภทต่าง ๆ ตามลักษณะการใช้งานและบทบาทในเกม โดยอาวุธทั้งหมดสามารถจัดกลุ่มได้เป็น 8 ประเภทหลัก ดังนี้:

1. Assault Rifles (AR)

คุณสมบัติ: ใช้งานได้ดีทั้งระยะกลางและไกล มีความสมดุลระหว่างพลังทำลายและความแม่นยำ

ตัวอย่างอาวุธ:

  • M4A1
  • AK47
  • Groza
  • SCAR
  • XM8
2. Submachine Guns (SMG)

คุณสมบัติ: ยิงได้รวดเร็ว เหมาะสำหรับระยะใกล้-กลาง และต่อสู้ในพื้นที่แคบ

ตัวอย่างอาวุธ:

  • MP40
  • UMP
  • VSS
  • Thompson
3. Sniper Rifles

คุณสมบัติ: ยิงได้แม่นยำมากในระยะไกล เหมาะสำหรับการซุ่มยิง

ตัวอย่างอาวุธ:

  • AWM
  • KAR98K
  • M82B
4. Shotguns

คุณสมบัติ: มีพลังทำลายสูงในระยะประชิด เหมาะสำหรับการต่อสู้ในพื้นที่จำกัด

ตัวอย่างอาวุธ:

  • SPAS12
  • M1014
  • M1887
5. Light Machine Guns (LMG)

คุณสมบัติ: ยิงได้ต่อเนื่องด้วยแมกกาซีนขนาดใหญ่ เหมาะสำหรับการกดดันศัตรู

ตัวอย่างอาวุธ:

  • M249
  • Kord
  • M60
6. Pistols

คุณสมบัติ: ใช้งานในกรณีฉุกเฉิน เหมาะสำหรับการต่อสู้ระยะใกล้

ตัวอย่างอาวุธ:

  • Desert Eagle
  • M500
  • G18
7. Melee Weapons

คุณสมบัติ: อาวุธประชิดตัว เหมาะสำหรับสถานการณ์ที่ต้องต่อสู้แบบไร้กระสุน

ตัวอย่างอาวุธ:

  • Scythe
  • Katana
  • Pan
8. Launchers

คุณสมบัติ: ใช้โจมตีด้วยระเบิดหรืออาวุธแรงสูง เหมาะสำหรับทำลายศัตรูเป็นกลุ่ม

ตัวอย่างอาวุธ:

  • RGS50
  • M79

(สามารถกดที่ตัวเลขได้ จะบอกรายละเอียดเพิ่มเติม) สำหรับอาวุธแต่ละประเภทนั้น จะใช้ในสถานการณ์ที่แตกต่างกันออกไป ผู้เล่นควรที่จะลองฝึกใช้ใหัครบทุกประเภทเพราะเนื่องจากในเกมนั้นมีการต่อสู้แบบระยะประชิดตัว และระยะไกล และแต่ละสถานการณ์ก็ต้องใช้สกิลแตกต่างกันออกไป

รวมอาวุธ 20 แบบ ที่เซียนๆ ใช้กันมากที่สุด (และยังคงใช้ต่อในปี 2568)

1. M14 – เทพแห่งการยิงระยะไกล

  • ความเสียหาย: 71
  • ระยะ: 76
  • เหมาะกับ: ผู้เล่นที่ชอบวางกลยุทธ์ระยะไกล สามารถใช้เป็นสไนเปอร์ชั่วคราวได้
  • จุดเด่น: แมกกาซีนเล็ก แต่ความแม่นยำสูง

2. MP40 – เพื่อนยามยากในระยะประชิด

  • ความเสียหาย: 48
  • อัตราการยิง: 83
  • เหมาะกับ: การต่อสู้ในอาคารและพื้นที่แคบ
  • จุดเด่น: ยิงไว เคลื่อนที่เร็ว

3. Groza – ปืน AR ระดับเทพ

  • ความเสียหาย: 61
  • ระยะ: 77
  • เหมาะกับ: สถานการณ์ท้ายเกมที่ต้องการปืนครบเครื่อง
  • จุดเด่น: หาได้จาก Airdrop เท่านั้น

4. M1887 – Shotgun ระยะประชิดที่แรงที่สุด

  • ความเสียหาย: 100
  • เหมาะกับ: ผู้เล่นที่ชอบจบเกมไวในพื้นที่แคบ
  • จุดเด่น: ความเสียหายมหาศาล

5. AWM – สไนเปอร์สุดโหด

  • ความเสียหาย: 90
  • ระยะ: 91
  • เหมาะกับ: การเล่นเป็นสไนเปอร์ที่ต้องการความแม่นยำ
  • จุดเด่น: ยิงทีเดียวจบ

6. KAR98K – สไนเปอร์สุดคลาสสิก

  • ความเสียหาย: 90
  • จุดเด่น: มี Scope ติดมาให้พร้อม ใช้ง่าย

7. Treatment Gun – ปืนซัพพอร์ตทีม

  • ความเสียหาย: 20
  • ฟีเจอร์พิเศษ: รักษาทีมเมตได้จากระยะไกล

8. SPAS12 – Shotgun สุดทรงพลัง

  • ความเสียหาย: 97
  • เหมาะกับ: การต่อสู้ระยะประชิด

9. M4A1 – ปืนสำหรับมือใหม่

  • ความเสียหาย: 29
  • จุดเด่น: ใช้ง่าย เหมาะกับทุกระยะ

10. Desert Eagle – ปืนพกดาเมจแรง

  • ความเสียหาย: 90
  • เหมาะกับ: สถานการณ์ฉุกเฉิน

11. XM8 – AR แบบลูกผสม

  • ความเสียหาย: 55
  • จุดเด่น: มาพร้อม Scope ติดตัว

12. FAMAS – AR แบบ Burst Fire

  • ความเสียหาย: 53
  • เหมาะกับ: การยิงระยะกลางถึงไกล

13. UMP – ปืน SMG สำหรับระยะใกล้

  • ความเสียหาย: 50
  • จุดเด่น: ยิงไว เกราะทะลุได้ดี

14. AN94 – AR ระยะกลาง

  • ความเสียหาย: 36
  • เหมาะกับ: ผู้เล่นเริ่มต้น

15. Crossbow – ปืนลอบสังหารเงียบ

  • ความเสียหาย: 90
  • เหมาะกับ: ผู้เล่นสาย Stealth

16. M60 – LMG สำหรับสายบุก

  • ความเสียหาย: 56
  • จุดเด่น: แมกกาซีนใหญ่ ยิงรัว

17. Kord – LMG ที่ยิงแรง

  • ความเสียหาย: 60
  • จุดเด่น: ยิงแบบ Shotgun ได้เมื่อหมอบ

18. SCAR – ปืน AR สมดุล

  • ความเสียหาย: 53
  • จุดเด่น: ใช้ง่ายเหมาะกับทุกสถานการณ์

19. M249 – LMG สำหรับเกมท้าย

  • ความเสียหาย: 57
  • จุดเด่น: หาได้จาก Airdrop

20. VSS – SMG ระยะไกล

  • ความเสียหาย: 54
  • จุดเด่น: มาพร้อม 4x Scope และ Silencer

ตารางเปรียบเทียบประเภท และดาเมจของแต่ละตัว

# ชื่ออาวุธ ประเภท ความเสียหาย จุดเด่น
1 M14 Assault Rifle (AR) 71 เหมาะสำหรับยิงระยะไกล
2 MP40 Submachine Gun (SMG) 48 ยิงไว เคลื่อนที่เร็ว
3 Groza Assault Rifle (AR) 61 หาได้จาก Airdrop
4 M1887 Shotgun 100 แรงสุดในระยะประชิด
5 AWM Sniper Rifle 90 เหมาะกับการยิงระยะไกล
6 KAR98K Sniper Rifle 90 มี Scope ติดตัว
7 Treatment Gun Support 20 รักษาทีมเมตได้
8 SPAS12 Shotgun 97 เหมาะกับระยะประชิด
9 M4A1 Assault Rifle (AR) 29 ใช้ง่าย เหมาะกับมือใหม่
10 Desert Eagle Pistol 90 เหมาะกับสถานการณ์ฉุกเฉิน
11 XM8 Assault Rifle (AR) 55 มาพร้อม Scope ติดตัว
12 FAMAS Assault Rifle (AR) 53 มี Burst Fire
13 UMP Submachine Gun (SMG) 50 ทะลุเกราะได้ดี
14 AN94 Assault Rifle (AR) 36 เหมาะกับผู้เริ่มต้น
15 Crossbow Special 90 ลอบสังหารเงียบ
16 M60 Light Machine Gun (LMG) 56 ยิงรัว แมกกาซีนใหญ่
17 Kord Light Machine Gun (LMG) 60 ยิงแบบ Shotgun เมื่อหมอบ
18 SCAR Assault Rifle (AR) 53 เหมาะสำหรับมือใหม่
19 M249 Light Machine Gun (LMG) 57 หาได้จาก Airdrop
20 VSS Submachine Gun (SMG) 54 มาพร้อม 4x Scope และ Silencer

ปกติ โปรเพลเยอร์ เค้าใช้ปืนประเภทไหนกันบ้างนะ?

ในโลกของ Garena Free Fire การเลือกปืนที่เหมาะสมกับสไตล์การเล่นถือเป็นศิลปะ และถ้าถามว่าโปรเพลเยอร์เขาใช้ปืนอะไรกัน บอกเลยว่าไม่ได้มีสูตรตายตัว เพราะมันขึ้นอยู่กับสถานการณ์และความถนัดของแต่ละคน แต่ที่เห็นชัด ๆ คือปืนที่เทพ ๆ นิยมใช้กันมักจะเป็นปืนที่ “โหดจัด” และเหมาะกับการพลิกเกม ไม่ว่าจะเป็น Groza ที่ขึ้นชื่อเรื่องความสมดุลและความแรง เหมาะสำหรับทุกระยะ แถมยังหายากจนหลายคนยกให้เป็น “อัญมณีจาก Airdrop” แต่อย่างไรก็ดี หลายคนบอกว่า AWM เป็นปืนอันดับ 1 เพราะเป็นสไนเปอร์ตัวเทพที่แม่นยำและแรงสุดในระยะไกล ใครที่เล่นสายซุ่มยิงต้องมีติดตัวไว้

ถ้าชอบบู๊ล้างผลาญแบบจู่โจมระยะประชิด MP40 ก็ยังครองตำแหน่งปืนกลเบาที่คนเล่นเก่ง ๆ ชอบใช้ เพราะมันยิงไวและแรงมาก เหมาะกับการเข้าตีในบ้านหรือพื้นที่แคบ แต่ถ้าคุณเป็นสาย “ยิงปังเดียวจอด” M1887 หรือปืนลูกซองในตำนานก็เป็นตัวเลือกที่ห้ามพลาด เพราะมันสามารถจัดการศัตรูได้ในนัดเดียว ถ้าเข้าใกล้ศัตรูเมื่อไหร่ บอกเลยว่าเขาไม่มีโอกาสได้หายใจ

อีกตัวที่ต้องพูดถึงคือ SCAR และ XM8 ซึ่งเป็นปืนที่มีรีคอยล์ต่ำ ยิงง่าย เหมาะกับคนที่ชอบต่อสู้ในระยะกลางหรือไกลแบบชิล ๆ ไม่ต้องปวดหัวกับการควบคุมปืน ส่วนใครที่ชอบเล่นแบบ Tactical หรือซุ่มยิงผสมการลุยระยะกลาง M14 ก็เป็นตัวเลือกที่ดี ด้วยระยะยิงที่ไกลที่สุดในกลุ่ม Assault Rifle และความแม่นยำที่ทำให้คุณสามารถสอยศัตรูจากระยะไกลได้อย่างมั่นใจ

สำหรับใครที่ชอบเป็น “ฮีลเลอร์” หรือสายช่วยเหลือเพื่อนร่วมทีม Treatment Gun คือปืนที่ต้องมี มันไม่ได้มีไว้ยิงศัตรูเท่านั้น แต่ยังช่วยฟื้นฟูพลังชีวิตให้เพื่อนในระยะไกลได้อีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นตัวช่วยที่สำคัญในทีมที่เน้นการเล่นกันเป็นทีม

ดังนั้น ถ้าอยากเล่นให้เทพแบบโปรเพลเยอร์ สิ่งสำคัญคือการลองใช้ปืนหลาย ๆ แบบ เพื่อค้นหาว่าตัวไหนเหมาะกับสไตล์ของคุณที่สุด เพราะไม่ว่าคุณจะเป็นสายบู๊หรือสายซุ่ม การมีปืนคู่ใจที่คุณถนัดจะช่วยเพิ่มโอกาสชนะได้มากขึ้น

อ่านต่อเกี่ยวกับ Free Fire