กระแสข่าวเกี่ยวกับเกมใหม่จาก Garena อย่าง “Free City” ที่จะเปิดตัว 30 มิถุนายน 2568 นี้ ถึงแม้ว่าอาจจะไม่ได้ดังเป็นพลุแตกในตอนแรก แต่ก็สร้างความตื่นตัวไม่น้อย เพราะ ทาง GTA 6 ได้มีการประกาศเลื่อนวันเปิดตัวไปปีหน้า 2026 นู่นเลย แต่ด้วยเกมที่มีการดำเนินเรื่องคล้ายกัน หลายคนจึงตั้งคำถามว่า หาก Garena Free City เปิดตัวในเร็วๆ นี้ และสามารถสร้างฐานผู้เล่นที่เหนียวแน่นได้สำเร็จ เมื่อถึงคราวที่ “Grand Theft Auto VI” ซึ่งเป็นที่รอคอยมาอย่างยาวนานออกสู่ตลาด เกมเมอร์เหล่านั้นจะยังคงอยู่กับ Free City หรือจะเล่น GTA 6 กันหมดเลย?
วิเคราะห์ แนวทางการตลาดของเกม Free City และ Grand Theft Auto VI
Free City โหลดเล่นได้เลย แต่ GTA 6 ต้องเสียเงินเล่น
สิ่งที่จริงๆ ต้องเข้าใจก่อนก็คือ Garena Free City จะเน้นไปที่การเล่นบนมือถือ iOS และ Android ในขณะที่ GTA 6 จะเป็นเกม AAA ที่คาดว่าจะมาใน Console และ PC เป็นหลัก (ซึ่งก็ไม่ได้มีการประกาศจากทางผู้พัฒนาว่า ทาง GTA 6 จะมีเวอร์ชั่นมือถือหรือไม่? ดูสัมภาษณ์ของ Stauss Zelnick เกี่ยวกับเรื่องนี้)
ซึ่งในเรื่องนี้ Free City ได้เปรียบเต็มๆ เพราะมันเป็นเกมที่เข้าถึงง่ายเพราะเป็นเกมมือถือ แค่โหลดมาก็เล่นได้ฟรีๆ แล้ว และไม่ต้องเสียตังค์หลายพันบาทไปซื้อเกมแบบ GTA 6 ด้วย และด้วยแบรนด์อย่าง Garena ที่เราเห็นกันแทบทุกเกมมักจะได้รับการโปรโมท และ การเจาะกลุ่มผู้เล่นเพื่อทำการตลาดเป็นอย่างดี
อ่านต่อ: Garena Free City เข้าฟิลิปปินส์ แล้ว
แต่สำหรับ GTA 6 นั้น ถึงแม้ว่า ฉาก Trailer หรือ Preview ที่ออกมา จะชัดเจนว่า กราฟฟิกนี่ระดับเทพ และมีแต่คนอยากเล่น แต่ ถ้าจะเล่นได้จะต้องมีคอมที่ต้องมีความแรงระดับนึง อาจใช้เงินราวๆ 30,000 – 50,000 บาท เพื่อให้ได้เล่นเกมภาพสวยๆ แบบนี้ได้
อ่านต่อ: Garena Free City VS GTA 5 ต่างกันยังไง?
Free to Play กับ Pay to Play
เกมการีน่าทุกตัว น่าจะมาในรูปแบบ Free-to-Play (F2P) แต่สำหรับ Free City ต้องเติมเกม มันเป็นเกมที่ผู้เล่นสามารถดาวน์โหลดและเล่นได้ฟรี แต่มีการซื้อขายภายในเกม (In-app purchase) เช่น สกินตัวละคร, รถ, อาวุธ หรือ Battle Pass โมเดลนี้ประสบความสำเร็จอย่างสูงกับเกมของ Garena หลายๆ เกม เช่น RoV หรือ Free Fire ที่เราเห็นกันอยู่ทุกวัน
สำหรับ GTA 6 จะยังคงเป็นเกมแบบ Pay-to-Play ที่ผู้เล่นต้องซื้อเกมในราคาเต็ม ซึ่งมักจะสูงถึง $60-70 (ประมาณ 2-3 พันบาท) หรือมากกว่านั้น แม้จะมีเนื้อหาเสริมหรือโหมดออนไลน์ (GTA Online) ที่สามารถซื้อของเพิ่มเติมได้ แต่จุดเริ่มต้นคือการต้องลงทุนซื้อเกม และยังไม่รวมที่ต้องซื้อเครื่องด้วย
และด้านล่างนี้คือเสปคคอม ที่คาดว่าจะเอามาเล่น GTA 6 ได้ (แต่อย่าพึ่งยึดถือตามนี้ เพราะเกมยังไม่ออก) และดูราคาแต่ละ option ค่อนข้างสูง ดังนั้น คนอาจจะเล่น GTA 6 น้อยกว่าก็ได้ เพราะ Free City น่าจะใช้มือถือ เสปคไม่แรงมาก เรียกได้ว่า คอมแพงกว่าเกมนั่นแหละ
ระดับสเปก | สเปกโดยประมาณ | รายละเอียดฮาร์ดแวร์ | ราคาโดยประมาณ (บาท) |
---|---|---|---|
ขั้นต่ำ (เล่นได้) | เล่นที่ 1080p ปรับ Low-Medium | CPU: i5-12400F / Ryzen 5 5600 MB: B660 / B550 RAM: 16GB DDR4 GPU: RTX 3060 / RX 6600XT SSD: NVMe 1TB (PCIe 3.0) PSU: 650W (80+ Bronze) Case: ทั่วไป |
25,000 – 35,000 |
แนะนำ (เล่นลื่น) | เล่นที่ 1080p/1440p ปรับ High-Ultra | CPU: i5-13600K / Ryzen 7 7700X MB: B760 / B650 RAM: 32GB DDR4 หรือ DDR5 GPU: RTX 4070 / RX 7800 XT SSD: NVMe 1TB (PCIe 4.0) PSU: 750W (80+ Gold) Case: พัดลมดีขึ้น |
45,000 – 65,000 |
สูงสุด (เล่น 4K/Ray Tracing) | เล่น 4K ปรับ Very High + Ray Tracing | CPU: i7-14700K / Ryzen 7 7800X3D Cooler: Liquid Cooler 240/360mm MB: Z790 / X670E RAM: 32-64GB DDR5 (6000MHz+) GPU: RTX 4080/4090 หรือ RX 7900 XTX SSD: NVMe 2TB (PCIe 4.0/5.0) PSU: 850-1000W (80+ Gold/Platinum) Case: ใหญ่ พัดลมดี |
80,000 – 150,000+ |
อ้างอิง: Beebom, Eloboss, PCgamebenchmark
กิจกรรมในเกม การทำให้คนเล่นอยู่นาน ติดเกม สำคัญที่สุด
อย่างที่บอกไป หากเป็นแบรนด์การีน่าแล้วหล่ะก็ ไม่ต้องห่วงเรื่องการตลาด เพราะ มีกิจกรรมให้ทำหลากหลายและที่สำคัญคือการเล่นกับผู้เล่น ที่ให้ผู้เล่นได้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงมีการอัปเดตเนื้อหาใหม่ๆ สม่ำเสมอ ก็มีโอกาสสูงที่จะรั้งผู้เล่นไว้ได้ (ตัวอย่าง อย่าง RoV นี่แทบจะทุกชั่วโมงเลยทีเดียว)
แต่สำหรับ GTA แล้ว อาจจะไม่ได้เป็นเช่นนั้น อาจเป็นเรื่องของ Community ย่อยๆ ที่มาพูดคุยกันถึงเรื่องเกม เพราะหากจะอัปเดทเนื้อหาที ก็ต้องออก DLC และต้องเสียเงินให้ซื้อกันอีกรอบ
โดยสรุป
ถึงแม้ว่า Garena Free City จะไม่ได้มี graphic เทียบเท่ากันกับ GTA 6 แต่การที่มันเล่นง่าย เล่นฟรี (แม้ต้องเติมเกมก็ตาม แต่ก็ตามความพอใจ) ถึงแม้ GTA 6 จะเปิดตัวมา คนก็อาจจะไปเล่นเพราะเห่อ แต่สุดท้าย พอเบื่อก็หันกลับมาเล่น Free City อยู่ดี ซึ่งอันนี้ต้องรอดูกันระยะยาว