โกงเกม – สิ่งที่คนเล่นเกลียด คนหากำไรชอบ ทำไมถึงจัดการได้ไม่ 100%

การโกงไม่ใช่มีเพียงแต่มีในโลกของความเป็นจริงเท่านั้น แต่การโกงเกมเป็นเรื่องที่เราเเห็นกันทุกวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกมแบบ Multiplayer Online และหากให้เจาะจงเลยก็คือ เกมแนว Battle Royale ที่เป็นแบบ Free to Play และไม่ใช่แบบ Pay to Win เพราะยิ่งมีผู้เล่นมากหน้าหลายตา ศักดิ์ศรี ความต้องการเอาชนะ รวมถึงการทำเป็นธุรกิจทำให้การโกง ไม่ได้โกงอย่างเดียว โกงแล้วได้เงินด้วย

การโกงในเกมแนว Battle Royale เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมาอย่างยาวนานและยังคงเป็นอุปสรรคที่ผู้พัฒนาเกมไม่สามารถแก้ไขได้แบบเด็ดขาด แม้ว่าจะมีระบบป้องกันการโกง Anti Cheat System ดีขนาดไหน จะมีการแบนผู้เล่นเยอะเพียงใด แต่กลุ่มผู้ใช้โปรแกรมโกงยังคงหาทางเลี่ยงระบบ และพัฒนาวิธีการใหม่ ๆ อยู่เสมอ ทำให้การแก้ปัญหานี้เป็นเรื่องที่ไม่มีวันจบ ในบทความนี้ เราจะมาเจาะลึกถึงเหตุผลว่าทำไมเกมแนว Battle Royale ถึงไม่สามารถกำจัดผู้เล่นที่โกงได้อย่าง 100%

ทำไมผู้พัฒนาเกมจึงไม่สามารถกวาดล้างคนโกงเกม ได้อย่าง 100%?

ที่ผ่านมาเราได้เห็นหลายๆเกมมีการแบนผู้เล่นที่สุ่มเสี่ยงที่จะโกงเกมเช่น Marvel Rivals มีมาตรการลงดาบคนโกง หรือจะเป็น Riot Games ที่ลงทุนกับระบบ Vanguard และ อย่าง Delta Force มีระบบ G.T.I. ที่อาจสามารถกันคนโกงได้ระดับหนึ่ง โดยการกันบอท แต่ก็ยังมีวิธีอื่นๆ ที่ระบบตรวจจับไม่เจอ เช่นการทำ Smurfing ซึ่งยากต่อการตรวจสอบ เพราะถูกกระทำโดยคนไม่ใช่โปรแกรม  วันนี้เราจะมาดูปัจจัยกันว่า ทำไม บริษัทเกมจึงไม่สามารถจัดการกับเรื่องนี้ได้เบ็ดเสร็จเด็ดขาดซะที?

1. ระบบ Free-to-Play ทำให้การโกงง่ายกว่าเดิม 

หนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้ปัญหาการโกงแพร่ระบาดในเกมแนว Battle Royale ก็คือ “รูปแบบธุรกิจ Free-to-Play” (F2P) หรือเกมที่เปิดให้เล่นฟรี โดยที่ผู้เล่นสามารถสร้างบัญชีใหม่ได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย หากบัญชีของถูกแบนจากการใช้โปรแกรมโกง ก็ยังสามารถสมัครบัญชีใหม่และกลับมาเล่นได้ภายในเวลาไม่กี่นาที

ถึงแม้บางเกมจะมีมาตรการอย่าง การผูกบัญชีกับหมายเลขโทรศัพท์หรือการยืนยันตัวตน แต่ก็ยังไม่สามารถป้องกันได้ 100% เพราะผู้โกงสามารถใช้เบอร์โทรศัพท์ปลอม, VPN หรือแม้กระทั่งซื้อบัญชีสำเร็จรูป หรือ ซื้อไอดีแบบสุ่ม มาใช้แทน

ผู้พัฒนาเกมหลายเจ้าพยายามจัดการกับเรื่องนี้ โดยการเปลี่ยนเป็นแบบ Pay to Win แทน แต่ก็ได้รับกระแสตอบรับแบบ ลบๆ กลับมา ว่าไม่แฟร์ เพราะบัญชีเทพๆ มักจะมีเงินเติมเกม และทำให้ stats และ rank เหนือกว่า คนที่ไม่มีเงิน กลับกลายเป็นทางตันอีกเรื่อง

2. การโกงกลายเป็นธุรกิจสีเทาไปแล้ว

อุตสาหกรรมการโกงเกมเติบโตขึ้นจนกลายเป็น “ตลาดสีเทา” ที่มีมูลค่าหลายล้านดอลลาร์ บริษัทที่พัฒนาโปรแกรมโกงมักจะมีทีมวิศวกรที่พัฒนาโค้ดเพื่อหลบหลีกระบบป้องกันของเกม และขายให้กับผู้เล่นที่ต้องการเปรียบเทียบกับคนอื่น นั่นก็คือการพัฒนาบอทสำหรับมาเล่นแทน

มีบางรายถึงขั้นให้บริการ “สมัครสมาชิกรายเดือน” สำหรับการใช้โปรแกรมโกง หรือขาย บัญชีที่มีสถิติดีๆ เพื่อให้ผู้เล่นที่ต้องการอันดับสูงสามารถซื้อไปใช้ได้โดยไม่ต้องเล่นเอง สิ่งนี้ทำให้ผู้พัฒนาเกมต้องหาทางแก้จุดอ่อนตรงนี้อย่างต่อเนื่อง และ ถ้าหากสังเกตให้ดี บางรายยังคงต้องประกาศว่ามีการแบนผู้เล่นอย่างต่อเนื่อง และประกาศใน Facebook ด้วย

การปั่นแรงค์ ก็เป็นอีกตัวหนึ่งที่น่ากลัว เพราะคนเก่งจะสมัครบัญชีใหม่ และปั้น Ranking ของตัวเองให้ดี มี Stats ดี และนำเอา UID นั้นๆ ไปขายต่อ ยกตัวอย่างเช่นการขาย UID ไอดี ฟีฟาย ที่มีเห็นให้ว่อนใน Social Media 

3. การป้องกันการโกงพัฒนาตลอด…แต่ คนพัฒนาโปรแกรมโกง ก็ไม่ได้อยู่นิ่ง…

อีกปัจจัยที่ทำให้การกำจัดคนโกงเป็นเรื่องยากก็คือ วิธีการโกงที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง กลุ่มนักพัฒนาโปรแกรมโกงมักจะทำงานแบบ “Reactive” คือ เมื่อระบบป้องกันการโกงของเกมถูกอัปเดต ก็จะหาช่องโหว่ใหม่ และอัปเดตโปรแกรมของตนเพื่อหลบหลีกระบบตรวจจับของผู้พัฒนาเกม

ตัวอย่างของโปรแกรมโกงที่พบในเกมแนว Battle Royale อย่าง COD Mobile เช่น

• Aimbot – ทำให้ผู้เล่นสามารถเล็งเป้าหมายได้อัตโนมัติ
• Wallhack – ทำให้สามารถมองทะลุกำแพงและรู้ตำแหน่งศัตรู
• Speed Hack – เพิ่มความเร็วให้ตัวละครเดินได้เร็วกว่าปกติ
• ESP (Extrasensory Perception) – แสดงข้อมูลของศัตรู เช่น ชื่อ ระยะห่าง หรือไอเท็มที่มี

เนื่องจากโปรแกรมเหล่านี้ถูกพัฒนาและอัปเดตอยู่เสมอ ทำให้ระบบป้องกันการโกงของเกมต้องทำงานหนัก และบางครั้งก็ไม่สามารถตามทันได้ ยกตัวอย่างล่าสุดของ Aimbot ที่ทำให้คนเล่นสามารถเล็งได้แบบออโต้ คือแบบนี้ใครจะไปเล่นด้วยได้?

4. ฐานผู้เล่นจำนวนมาก ทำให้การตรวจสอบเป็นไปได้ยาก

เกมแนว Battle Royale เป็นเกมที่รองรับผู้เล่นจำนวนมากในแต่ละแมตช์ บางเกมมี ผู้เล่นพร้อมกัน เป็นหลักล้านคนต่อเดือน ทำให้การตรวจสอบพฤติกรรมของผู้เล่นแต่ละคนเป็นเรื่องที่ใช้เวลามาก

ถึงแม้ว่าหลายเกมจะมีระบบ “รายงานผู้เล่นที่น่าสงสัย” (Report System) แต่ก็ยังไม่สามารถตรวจสอบทุกกรณีได้ทันที บางครั้งการแบนผู้เล่นต้องอาศัย Machine Learning และระบบวิเคราะห์พฤติกรรม แต่ระบบเหล่านี้ยังคงมีช่องโหว่ เช่น การตรวจจับที่ไม่แม่นยำ หรือใช้เวลานานกว่าจะสามารถแยกแยะระหว่างผู้เล่นที่มีฝีมือจริงกับผู้ที่ใช้โปรแกรมโกง

5. ระบบป้องกันการโกงไม่สามารถกันโกงได้ 100%

ถึงแม้ว่าเกมจะมี ระบบป้องกันการโกง อย่าง Easy Anti-Cheat (EAC), BattlEye หรือ Ricochet Anti-Cheat จาก Activision แต่ระบบเหล่านี้มักจะมีช่องโหว่ที่ถูกกลุ่มนักพัฒนาโปรแกรมโกงเจาะได้

นอกจากนี้ ยังมีบางกรณีที่ระบบป้องกันการโกงทำให้เกิด False Positive หรือการแบนผู้เล่นที่บริสุทธิ์โดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งทำให้เกิดปัญหาการร้องเรียนจากผู้เล่นที่ไม่เคยใช้โปรแกรมโกงจริงๆ ทำให้เกิดความไม่พอใจกับเกมเมอร์ที่เล่นดี แต่โดนแบนอีกต่อหนึ่ง

รู้หรือไม่? โดนโกงเกม นอกจากผู้เล่นได้รับผลกระทบแล้ว ผู้พัฒนาก็ได้รับผลกระทบด้วย

บ่นกันว่า ไม่ทำอะไรเลย เอาแต่เงิน เติมเหรียญ เติมเพชรเข้าไป ได้ตังค์ แล้วก็อยู่กันนิ่งๆ เอาคนโกงออกซะที เหล่านี้เป็นคำที่เห็นกันใน Social Media เป็นประจำ แต่รู้หรือไม่ว่า การที่ผู้พัฒนาเกม โดนโกงเกมของตัวเอง มันยังสร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาลต่ออุตสาหกรรมเกมทั้งหมด ตั้งแต่การลดรายได้ของผู้พัฒนาเกม ไปจนถึงการลดความน่าเชื่อถือของแพลตฟอร์มเกม ในบทความนี้ เราจะสรุปผลกระทบหลักที่เกิดขึ้นจากการโกงเกม อ้างอิงจาก Quago.io

ลดรายได้จากการซื้อไอเท็มในเกม

• การใช้บอทและสคริปต์โกงทำให้เศรษฐกิจในเกมเสียสมดุล คือปกติต้องใช้เงินเติมถึงจะได้สิ่งนั้นสิ่งนี้ แต่บอทโกงได้ทุกอย่าง
• การขายไอเท็มหรือบริการบูสต์แรงค์นอกเกมทำให้ผู้พัฒนาเสียรายได้ แทนที่จะมาเล่นกันในเกม แต่ไปใช้โปรแกรมบูสต์
• พอคนเห็นแล้วว่าโกงแล้วได้แรงค์ดีกว่าเดิม ก็ไม่เติมเกม ทำให้ขาดรายได้

ข้อมูลเกมและพฤติกรรมผู้เล่นผิดเพี้ยน

• ผู้พัฒนาอาจเข้าใจผิดเกี่ยวกับความนิยมของฟีเจอร์ต่างๆ คือในบางครั้งบอทใช้งาน แต่คนจริงๆไม่ได้ใช้ฟีเจอร์นั้นๆเลย
• ระบบจับคู่ผู้เล่นอาจล้มเหลวเพราะมีผู้โกงไต่แรงค์ขึ้นไปสูง การโกงเรื่อง Ranking เช่น Smurfing ทำให้ระบบจับคู่สับสนได้
• ทำให้การตัดสินใจพัฒนาเกมผิดพลาดและลดความสมดุลของเกม เพราะข้อมูลทุกอย่างที่อยู่ในเกมจะถูกเอามาต่อยอดในการพัฒนาเกมนั่นเอง

ความน่าเชื่อถือของเกมลดลง แบรนด์สื่อสารกับผู้เล่นไม่ได้

• ผู้เล่นที่จ่ายเงินจริงอาจเลิกเล่นเพราะรู้สึกว่าเกมไม่ยุติธรรม ไม่แฟร์ และคนโกงไม่โดนแบนซะที
• คะแนนรีวิวเกมลดลงเพราะผู้เล่นไม่พอใจที่มีคนโกง
• ทำให้สังคมเกมเริ่ม Toxic ไม่ว่าทางเกมจะสื่อสารอะไรออกไป ก็จะมีแต่คนกดโกรธ และบรรยากาศในเกมแย่ลง

เพิ่มต้นทุนด้านเซิร์ฟเวอร์และการดูแลลูกค้า

• บอทและโปรแกรมโกงใช้ทรัพยากรเซิร์ฟเวอร์มากขึ้น เพิ่มค่าใช้จ่ายให้บริษัท
• ฝ่าย support ต้องรับมือกับปัญหาจากผู้เล่นที่ได้รับผลกระทบจากคนโกง
• กลุ่มโกงบางกลุ่มโจมตีระบบเกมเพื่อเปิดช่องทางโกงใหม่

จากประสบการณ์ที่ดูมา เกมที่มีคนเล่นเยอะอย่างพวก Battle Royale มักจะมีปัญหาในเรื่องของการโกงมากที่สุด หากเป็นเกมแนว MOBA ที่มีผู้เล่นเพียงไม่กี่คนในเกม เช่นฝั่งละ 5v5 หรือ มากกว่านั้น น้อยกว่านั้น การโกงมักจะไม่ประสบความสำเร็จ เพราะมันสังเกตเห็นได้ง่ายๆ ไม่ชุลมุนเหมือนกับเกมที่เล่นข้างละหลายสิบคนนั่นเอง

สำหรับการแก้ปัญหาโกงเกมนั้น สามารถทำได้หลายวิธีซึ่งก็อาจทำให้มีผลกระทบกับฐานผู้เล่นบ้าง เพราะอาจเป็นการลงดาบที่โหดเกินไป ยกตัวอย่างเช่น

การแบน Hardward ไปเลย เครื่องนั้นที่ใช้เล่นจะไม่สามารถเล่นได้อีก

คนเล่นใหม่จะเข้าไปอยู่ Server สำหรับคนเล่นใหม่เท่านั้น ถ้าอยู่ดีๆเล่นเก่งขึ้นมาให้สงสัยไว้ก่อนว่าโกง

แบนยกกลุ่ม หากใครอยู่ในกลุ่มที่มีคนใช้โปรแกรมโกง ให้แบนยกกลุ่ม แต่ถ้า Report 
ว่ามีคนโกงในทีมตัวเองให้รอดไป

ห้ามไม่ให้มี account transfer หรือซื้อขายกันนอกเกม โดยการผูกบัญชีกับเบอร์มือถือ

เพิ่มรางวัล แจกเพชร แจกไอเทม สำหรับคน Report คนโกง

ปืนไซเบอร์ในฟีฟาย เป็นแบบไหน? รับรางวัลเพิ่มถึง 17 มี.ค. 2568