หลังจาก Overwatch 2 สูญเสียฐานผู้เล่นไปจำนวนไม่น้อยในช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะกับการแข่งขันที่ร้อนแรงจาก Marvel Rivals ล่าสุด Blizzard ได้ประกาศเปิดตัว ระบบ Perk ใหม่ใน Season 15 ที่จะเปิดตัวในวันที่ 18 นี้ ซึ่งอาจเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่ที่สุดของเกมนับตั้งแต่เปิดตัว Overwatch 2 อย่างเป็นทางการ
Perk System ใน Overwatch 2 คืออะไร?
ระบบ Perk ใหม่นี้จะถูกเพิ่มเข้ามาใน Season 15 ซึ่งจะเริ่มต้นในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2025 ระบบนี้จะช่วยให้ผู้เล่นสามารถปรับแต่งตัวละครของตนเองให้เหมาะสมกับสไตล์การเล่นมากขึ้น โดยตัวละครแต่ละตัวจะสามารถ “เลเวลอัพ” และปลดล็อก Perk ได้ถึง 3 ระดับ เช่น
- Level 1: ตัวละครจะมีความสามารถพื้นฐานตามปกติ
- Level 2: ผู้เล่นสามารถเลือก Perk เล็ก เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพบางอย่าง เช่น
- Lucio: Soundwave จะมี Knockback ที่แรงขึ้น
- Torbjorn: ค้อนของเขาสามารถใช้ฟื้นฟูเกราะของเพื่อนร่วมทีมได้
- Level 3: ปลดล็อก Perk ใหญ่ ที่สามารถเปลี่ยนกลไกการเล่นของตัวละครโดยสิ้นเชิง เช่น
- Orisa สามารถเลือก เปลี่ยน Javelin Spin เป็น Barrier ป้องกัน หรือ เปลี่ยน Javelin ให้สามารถยิงทะลุศัตรูได้
- Reaper สามารถใช้ Dire Trigger เพื่อเพิ่มระยะยิง ทำให้สามารถโจมตีระยะกลางได้ดีขึ้น
- Winston สามารถใช้ Chain Lightning เพื่อช็อตศัตรูหลายตัวพร้อมกัน
ฮีโร่ | Perk ที่สามารถเลือกได้ |
---|---|
Orisa | เปลี่ยน Javelin Spin เป็น Barrier หรือใช้ Javelin ที่สามารถทะลุศัตรูได้ |
Reaper | Dire Trigger – เพิ่มระยะโจมตีให้ไกลขึ้น |
Winston | Chain Lightning – ช็อตศัตรูหลายตัวพร้อมกัน |
Hanzo | กลับมาใช้ Scatter Arrows ได้อีกครั้ง |
Baptiste | เพิ่ม Shoulder Turret สำหรับฮีลเพิ่มเติมเมื่อใช้ Ultimate |
Ramattra | Vengeful Vortex – ระเบิดพลัง Ravenous Vortex กลางอากาศเพื่อโจมตีศัตรูที่บินอยู่ |
Torbjorn | Anchor Bolts – สามารถติดตั้งป้อมปืนไว้บนกำแพงและเพดาน หรือใช้ Level 3 Turret |
Pharah | Concussive Vacuum – ดึงศัตรูเข้าหากันเพื่อเซ็ตอัป Ultimate ได้ง่ายขึ้น |
Ana | Headhunter – สามารถยิง Headshot เพื่อสร้างคริติคอล หรือใช้ Nano Boost บนตัวเองได้ |
Blizzard กับแรงกดดันจาก Marvel Rivals
ปฏิเสธไม่ได้ว่า Marvel Rivals ซึ่งเป็นเกมแนว Hero Shooter จาก NetEase ได้เข้ามาท้าทาย Overwatch 2 อย่างจริงจัง ด้วยการนำเสนอ เกมเพลย์แบบ 6v6 ที่คล้ายคลึงกัน แต่เพิ่มตัวละครจากจักรวาล Marvel ทำให้เกิดแรงดึงดูดผู้เล่นจำนวนมากที่อาจเบื่อกับระบบของ Overwatch 2
การเปิดตัว ระบบ Perk อาจเป็นหนึ่งในวิธีที่ Blizzard ใช้เพื่อรักษาผู้เล่นเดิมและดึงดูดผู้เล่นใหม่ โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการการปรับแต่งกลยุทธ์ของตัวละครให้หลากหลายยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม หากระบบ Perk นี้ ไม่สมดุล หรือทำให้เกมมีความซับซ้อนเกินไป อาจทำให้ผู้เล่นรู้สึกท้อและเลือกเปลี่ยนไปเล่น Marvel Rivals แทน
Overwatch 2 กำลังพยายามคืนฟอร์มหรือกำลังเสี่ยงอะไรที่ไม่ควรเสี่ยง?
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ถือเป็นการ เดิมพันครั้งใหญ่ของ Blizzard เพราะ:
- ทำให้ตัวละครหลากหลายมากขึ้น – ผู้เล่นสามารถปรับแต่งสไตล์การเล่นของฮีโร่ได้มากขึ้น ซึ่งอาจทำให้เกมสนุกขึ้น
- เพิ่มกลยุทธ์ในเกม – ทีมต้องวางแผนให้ดีขึ้น เพราะฮีโร่แต่ละตัวอาจมีความสามารถที่เปลี่ยนไป
- ดึงดูดผู้เล่นเก่ากลับมา – หากระบบ Perk ทำออกมาได้ดี อาจกระตุ้นให้ผู้เล่นเก่ากลับมาทดลองระบบใหม่
แต่ก็มีข้อเสียที่อาจเกิดขึ้น เช่น:
- เกิดความไม่สมดุลของเกม – หาก Perk ของบางฮีโร่มีพลังเกินไป อาจทำให้เกมเสียสมดุลและเกิด “Meta ที่ตายตัว”
- ความซับซ้อนเพิ่มขึ้น – ผู้เล่นใหม่อาจรู้สึกว่าเกมมีความซับซ้อนมากเกินไป ทำให้การเรียนรู้ฮีโร่ยากขึ้น
- แรงกดดันจากเกมคู่แข่ง – หากระบบ Perk นี้ไม่ดี อาจเป็นการตอกย้ำ gameplay ที่ ไม่ fair และ ผู้เล่นอาจหันไปหาเกมใหม่อย่าง Marvel Rivals แทน
บทสรุป
ระบบ Perk ของ Overwatch 2 เป็นหนึ่งในการอัปเดตที่ใหญ่ที่สุดของเกม และอาจเป็นปัจจัยสำคัญที่กำหนดอนาคตของเกมว่าจะสามารถ กู้คืนความนิยมได้ หรือจะทำให้ผู้เล่นยิ่งหันไปหาเกมอื่นมากขึ้น
หาก Blizzard สามารถบริหารระบบ Perk ให้สมดุลและน่าสนใจ อาจเป็นการช่วย รีเฟรชเกม และทำให้ Overwatch 2 กลับมาเป็นหนึ่งใน Hero Shooter ที่ได้รับความนิยมอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ถ้าระบบใหม่นี้ได้รับ feedback ที่ไม่ดี มันอาจกลายเป็นดาบสองคมที่ทำให้ผู้เล่นหายไปมากกว่าเดิม
คุณคิดว่าระบบ Perk ใหม่ของ Overwatch 2 จะช่วยกอบกู้เกม หรือจะทำให้มันแย่ลง?