หลังจากประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่กับ PUBG: Battlegrounds ผู้สร้างเกม Brendan Greene หรือที่รู้จักกันในชื่อ PlayerUnknown ก็กำลังกลับมาอีกครั้งกับ Prologue: Go Wayback! เกมแนวเอาชีวิตรอดแบบเล่นคนเดียวที่เตรียมเปิดให้เล่นใน Early Access บน Steam ภายในปีนี้ เกมนี้ถือเป็นก้าวแรกของเทคโนโลยีใหม่ที่ทางสตูดิโอ PlayerUnknown Productions กำลังพัฒนา และยังเป็นส่วนหนึ่งของโครงการขนาดใหญ่ที่ชื่อว่า Project Artemis ซึ่งมุ่งหวังจะสร้างเกมแนว Multiplayer Sandbox ขนาดใหญ่
ในบทความนี้ เราจะมาวิเคราะห์ว่า Prologue: Go Wayback! มีแนวคิดที่น่าสนใจอย่างไร และจะมีโอกาสสร้างปรากฏการณ์ใหม่ในวงการเกมเอาชีวิตรอดได้หรือไม่
เกมนี้จะน่าสนใจแค่ไหนกัน?
จุดเด่นของเกมนี้คือระบบ Machine-Learning-Driven Terrain Generation หรือการสร้างแผนที่แบบอัตโนมัติโดยใช้ AI ทำให้แต่ละการเล่นไม่ซ้ำกัน ซึ่งแตกต่างจากเกมแนวเอาชีวิตรอดทั่วไปที่ใช้แผนที่แบบตายตัวหรือสุ่มแบบจำกัด
จากตัวอย่างเกมเพลย์ที่ปล่อยออกมา ผู้เล่นจะได้สำรวจ ภูมิประเทศที่สวยงามและสมจริง ไม่ว่าจะเป็นป่าเขียวชอุ่ม ภูเขาหิมะ หรือพายุฝนที่กระหน่ำลงมา ซึ่งบรรยากาศเหล่านี้จะส่งผลต่อการเล่นอย่างมีนัยสำคัญ
เป้าหมายหลักของผู้เล่นใน Prologue: Go Wayback! คือการ เดินทางไปยังสถานีอากาศเพื่อติดต่อขอความช่วยเหลือ ฟังดูเหมือนเป็นภารกิจง่าย ๆ แต่การเดินทางกลับเต็มไปด้วยอุปสรรค ทั้งสภาพอากาศที่โหดร้ายและการหาเสบียงเพื่อเอาตัวรอด
ทุบสถิติ Steam มีผู้ใช้งานพร้อมกัน 39.2 ล้านคนเพราะ 2 เกมใหม่
Prologue: Go Wayback! เป็นโปรเจกต์ที่มีแนวคิดที่แปลกออกไปและอาจเป็นจุดเริ่มต้นของเกมแนวเอาชีวิตรอดยุคใหม่ ด้วยการใช้ Machine Learning เพื่อสร้างแผนที่ที่ไม่ซ้ำกัน และ ระบบสภาพอากาศที่ส่งผลต่อการเล่น นอกจากนี้ เกมยังเป็นรากฐานสำหรับ Project Artemis ซึ่งเป็นโปรเจกต์หลักของสตูดิโอ
อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จของเกมจะขึ้นอยู่กับว่าผู้เล่นจะสนุกกับระบบเอาชีวิตรอดที่เน้นธรรมชาติและการสำรวจมากแค่ไหน หากสามารถนำเสนอเกมเพลย์ที่มีเอกลักษณ์และให้ความรู้สึกสมจริง Prologue อาจกลายเป็นอีกหนึ่งเกมที่โดดเด่นในปี 2025
Steam เตือน เกมที่เป็น Early Access ไม่ได้อัปเดตเกิน 1 ปี คนซื้อต้องรู้